[admin]

ผมเคยทำอยู่ครับ แบบไม่ได้แนบไฟล์เข้าไปใน access ลองเอาแนวคิดที่ผมเคยทำ ไปปรับใช้ดูนะครับ ที่สำคัญคือต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่อง VBA ระดับที่สามารถแกะโค๊ตได้เลยนะครับ เพราะต้องใช้ VBA แน่ ๆ ซึ่งถ้าไม่เข้าใจก็ทำไม่ได้แน่ ๆ เหมือนกันครับเพราะค่อนข้างจะยากครับ

1 ตารางที่เราจะเก็บไฟล์นั้น ให้เก็บแต่ path โดย ประเภทของข้อมูลที่เก็บใช้เป็น text ธรรมดาครับ

2 สร้างฟอร์มเพิ่มไฟล์ โดย เอาฟิล์ด ที่เราจะเก็บ path ออกมา เป็น textbox แล้วเลือก perperty hyper text เป็น yes ด้วยครับ

3 ที่ Control source เขียนสูตร =IIf(IsNull([filepath]),"","ดูไฟล์") อธิบายคือ ถ้าช่องที่เราทำเป็นยังไม่มีการเก็บ path เราจะให้เป็นช่องว่างไว้ แต่ถ้ามีการเก็บ path ไว้แล้ว ให้มีลิงค์เปิดดูไฟล์ได้

4 ที่ event on click ของ textbox ให้ใส่สูตรเพื่อ เช็คว่า มีการใส่ path หรือยัง ถ้าใส่แล้ว ให้เปิดไฟล์ขึ้นมา แต่ถ้ายังไม่ได้ใส่ ให้เลือกไฟล์ เพื่อก๊อปปี้ไฟล์มาไว้ใน folder ที่เรากำหนด แล้วก็เก็บ path ไว้เรียกใช้ภายหลัง

อันนี้คือเรียกใช้ sub copyToFolder(ชื่อtextbox,ชื่อโฟลเดอร์ที่จะย้ายไฟล์มาเก็บ,ชื่อฟิล์ที่จะเก็บ path ในตาราง)

Private Sub filepaath_Click()
   Call copyToFolder(Me.filepath, "images", Me.file_pattern)
End Sub

ส่วน Sub copyToFolder อันนี้ต้องไล่โค๊ตแล้วเอาไปประยุกต์ใช้เอาเองนะครับ ^^

Sub copyToFolder(ByRef o As Object, ByVal ftext As String, ByRef field As Object)
    If (o.Value = "") Then

        Dim f    As Object
        Set f = Application.FileDialog(3)
        f.AllowMultiSelect = True
        f.Title = "กรุณาเลือกไฟล์รูป หรือ ไฟล์ PDF เพื่อแนบไปกับสินค้านี้"
        f.Show

        
        If (f.SelectedItems.Count > 0) Then
            For Each vrtSelectedItem In f.SelectedItems
                Dim fs As Object
                Dim oldPath As String, newPath As String
                oldPath = vrtSelectedItem 
                Fname = Filename(vrtSelectedItem)
                fext = EXTname(Fname)
                Newname = Me.cus_code & "_" & Me.pro_code & "." & fext
                newPath = CurrentProject.Path & "\" & ftext & "\" & Newname 
                Set fs = CreateObject("Scripting.FileSystemObject")
                Call fs.CopyFile(oldPath, newPath, True)
                Set fs = Nothing
                field.Value = Newname
                o.Requery
            Next
        End If
    Else
        
        thisfile = CurrentProject.Path & "\" & ftext & "\" & field.Value
        If (FileExists(thisfile)) Then
            Application.FollowHyperlink thisfile, , True
        Else
            field.Value = ""
            o.Requery
            MsgBox "ไฟล์ที่เคยแนบอาจโดนลบไปแล้วกรุณาเลือกไฟล์เพื่อแนบอีกครั้ง"
        End If
    End If
End Sub

5 ถ้าทำถูกต้องนะครับ เราก็จะได้ฟอร์มที่สามารถคลิกที่ textbox เพื่อเลือกไฟล์รูปมาเก็บไว้ที่ folder ที่เรากำหนด ได้ โดยเราเก็บแค่ path ไว้ในตารางเท่านั้น ส่วนจะเอา path ไปทำอะไรต่อก็แล้วแต่นะครับ ^^

ที่ผมเคยทำมีอยู่วิธีนี้วิธีเดียวครับยอมรับว่าค่อนข้างยากเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้นะครับ ^^

[admin]

ส่งไฟล์มาหน่อยครับ kitisak_arm@hotmail.com เด๋วผมเขียนให้ดูครับ อธิบายยากแหะ ๆ

[admin]

คือถ้าไม่ใส่ช่วงเวลา ให้มันออกมาทั้งหมดเหรอครับ

[admin]

ตรงที่ผมเขียน [เงื่อนไข] ตรงนี้ให้ใส่โค๊ตเข้าไปเองครับ สมมติว่าจะดึงค่าจาก control จากฟอร์มใดฟอร์มหนึ่งมา ก็แทนไปว่า [forms]![ชื่อฟอร์ม]![ชื่อ control] ได้เป็น

Like Nz([forms]![ชื่อฟอร์ม]![ชื่อ control],"*")

แบบนี้ครับ

[admin]

ใช่ครับ ใช้ query ดึงข้อมูลจากสองตาราง ได้เลย โดยให้สองตารางมันโยงความสัมพันธ์กันด้วย pk กับ fk ไว้ครับ

[admin]

ผมดูให้ละครับ ตอนนี้ข้อมูลมันซ้ำซ้อนอยู่ ปรกติข้อมูลลูกค้าเราจะเก็บไว้ที่ตารางลูกค้าที่เดียวครับ ส่วนตารางอื่นที่จะเอาข้อมูลลูกค้าไปใช้ เอาไปแต่ PK ครับ ไม่ได้เอาข้อมูลไปทั้งหมด เพราะงั้น ที่ตารางการจอง ตัดข้อมูลลูกค้าออกให้หมดเลยครับ เหลือแต่ รหัสลูกค้าอย่างเดียวถึงจะถูก

ข้อมูลห้องพักก็เหมือนกันครับ เก็บไว้ที่ตารางห้องพักที่เดียว ตารางอื่นจะเอาข้อมูลห้องพักไปใช้ เอาไปแต่ เลขที่ห้องพักพอครับ

เพราะฉะนั้น ข้อมูลช่องสีแดงที่คุณ HooHiiw บอกว่าไม่มา ไม่ต้องแปลกใจครับ เราไม่เก็บไว้ที่ตารางนั้นอยู่แล้ว ^^

[admin]

ได้สิครับ ใช้ like นั่นแหล่ะครับ สมมติ เราใส่เงื่อนไข

Like Nz([เงื่อนไข],"*")

แบบนี้ ถ้า [เงื่อนไข] เป็นค่าว่าง (Null) จะเลือกข้อมูลทั้งหมดครับ แต่ถ้าไม่ใช่ค่าว่าง เช่น มีค่าเท่ากับ 100 แบบนี้ก็จะเลือกแต่ ข้อมูลที่เท่ากับ 100 เท่านั้น งงไหมครับ

[admin]

สงสัยต้องให้ส่งไฟล์ให้ผมดูหน่อยละครับ ดูแต่รูป ไม่รู้สาเหตุจริง ๆ ส่งไฟล์มานะครับ kitisak_arm@hotmail.com ครับ

[admin]

ยินดีมากครับ ติดตรงไหนก็ถามมาได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจครับ admin อยากให้เขียนจบได้โปรแกรมที่ต้องการกันทุกคน อิอิ

[admin]

ลองดูในรูปครับการเขียนเงื่อนไขในการเลือกข้อมูลออกมาโชว์ เราจะเขียนไว้ที่ช่อง Criteria ใน Query

ถ้าหากต้องการเงื่อนไข จากวันที่หนึ่งถึงวันที่หนึ่ง เราจะใช้ function
Between [จากวันที่] and [ถึงวันที่]

การดึงค่าในฟอร์มมาใช้ ใน query นั้นง่าย ๆ ครับ ใช้รูปแบบตามนี้
[Forms]![ชื่อฟอร์ม]![ชื่อ Control ที่จะดึงค่า]

ดังนั้น หากเรามีฟอร์มที่ให้ใส่ค่า วันที่เริ่มต้น ถึงวันที่สิ้นสุดเพื่อจะทำ query โดยผมสมมติ ชื่อฟอร์ม ว่า frm_search ส่วน control วันที่เริ่มต้นตั้งชื่อว่า date_start วันที่สิ้นสุดตั้งชื่อว่า date_end เราจะเขียนเงื่อนไขใน query ได้ดังนี้
Between [Forms]![frm_search]![date_start] and [Forms]![frm_search]![date_end]

ส่วนที่ถามว่าค้นหาจากชื่อพนักงาน ได้อย่างไร ก็ใช้หลักการเดียวกันครับ วิธีดึงค่าจากฟอร์มก็ทำเหมือนกัน เพียงแต่การค้นหาจากชื่อหรือข้อความนั้นเรานิยมใช้ function Like ครับ ลองไปศึกศาดูครับ

ส่วนตัวอย่างโค๊ต สมมติว่า ชื่อฟอร์มว่า frm_search ส่วน control ที่ใช้หาชื่อพนักงาน ชื่อว่า emp_name ก็เขียนโค๊ตได้ดังนี้
Like "*" & [Forms]![frm_search]![emp_name]

ผมบอกได้แต่แนวการเขียนนะครับ ส่วนรายละเอียดว่า ฟังก์ชั่นอะไรใช้อย่างไร หาใน google ดูครับคนอธิบายไว้เพียบหมดเลย ^^

[admin]

ถ้าจะเอาให้เป๊ะเลยนะครับ จำเป็นต้องควบคุม lot ในการรับและ lot ในการเบิกด้วยครับ ก็จะรู้ว่าคงเหลือ lot ไหนบ้างในตอนนี้ และอ้างอิงจาก lot จะรู้เลยว่า lot ไหนราคาต่อหน่วยเท่าใหร่ ซึ่งต้องออกแบบใหม่แต่แรกครับ

ถ้าตามที่ทำมานี้ ก็มีแนวทางทำได้อีกหน่อย แต่ว่าจะไม่เป๊ะนะครับ ต้องคุยกับเจ้านายว่ารับได้ไหม คือ
1 ถ้าจะเอาราคาสูงสุดที่ซื้อมาไม่สนใจราคาอื่น ก็ใช้ Max แบบที่คุณ peerapach ทำตัวอย่างให้ดูนี่ก็ได้ราคาสูงสุด เอาไปคูณจำนวนคงเหลือได้เลย
2 ถ้าจะเอาราคาต่ำสุด ที่ซื้อ ก็เปลี่ยนจาก Max เป็น Min ครับ (แต่อันนี้ผมว่าไม่น่าจะได้ เพราะบาง record เป็น null ค่าต่ำสุดจะกลายเป็น null ไป)
3 ถ้าจะเอาราคาเฉลี่ย ก็เปลี่ยนจาก Max เป็น Avg ครับ

ผมบอกทางเลือกไปหมดแล้วนะครับ เหลือแค่คุณ peerapach จะเลือกแบบไหน ^^

[admin]

เข้าใจแล้วครับ ผมคิดว่าถ้าจะเอาราคาสุทธิ (ราคาต่อหน่วย * จำนวนรับ) ภายใน query นี้ จะยังทำไม่จบครับ ต้องเพิ่มอีก query นึง

query ที่กำลังทำอยู่นี้ ให้เอาแถว total: ออกไปก่อน(หมายถึงแถว group by,sum อะไรพวกนี้ครับ)
แล้วก็ให้เพิ่มอีก column นึง ไว้คำนวน เป็นราคาสุธิ ขึ้นมาเลย สมมติว่า

ttl_price: In*IM_Item_Unitprice

ทีนี้ก็เซพไว้ครับ สมมติเป็นชื่อว่า stock1 แล้วก็สร้างขึ้นใหม่อีก query นึง เอา stock1 ตั้ง เอาแถว(ผลรวม) total: ออกมา

เอาคอลัมป์ออกมาตามนี้นะครับ
1. Item_Code [Group By]
2. Item [Group By]
3. In [Sum]
4. Out [Sum]
5. Balance [Sum]
6. Target_stock [Group By]
7. tt_price [Sum]

แค่นี้ก็น่าจะเอาไปทำรายงานที่ต้องการได้แล้วครับ

[admin]

ช่อง IM_Item_unitprice อันนี้ เปลี่ยนจาก Max เป็น Sum ดูครับ ได้ไหม

[admin]

ลองใช้ฟังก์ชั่น dlookup ดูครับ
เช่น

Dim chk
chk=Dlookup("[คอลัมป์ที่หา]","[ชื่อตาราง]","[ชื่อตาราง]![คอลัมป์ที่หา]='" & Me![SearchB] & "'")
If(IsNull(chk)) then
  msbgox "ไม่เจอข้อมูลที่ค้นหา"
Else
  'ถ้าหาเจอแล้วจะทำอะไรให้มาใส่ตรงนี้ครับ
End If

[admin]

จัดให้สองแบบเลยนะครับ
แบบที่ 1 https://www.youtube.com/watch?v=6p-6WdPEatg

แบบที่ 2 https://www.youtube.com/watch?v=Vo9a3pqL3UM

[admin]

มันต้องอธิบายยาว แต่เด๋วผมทำวีดีโอให้ครับจะได้ง่าย ๆ รอแปป

[admin]

ได้ครับใส่โค๊ตเพิ่มใต้ msgbox

If(Trim(me.none_blank)="") Then
  msgbox "กรุณาใส่ข้อมูลให้ครบ"
  <strong style="color:red;">Me.non_blank.SetFocus</strong>
Else
  ' ตรงนี้ใส่โค๊ตสำหรับเซพข้อมูล
End If

ประมาณนี้ครับ

[admin]

ต้องใช้ vba เช็คครับ

1 ให้ตั้งชื่อชองช่องที่เราจะเช็คก่อนนะครับ คลิกขวาที่ช่องที่เราจะเช็ค > property > tab Other > ช่อง name
สมมติว่า่ชื่อ none_blank ละกัน

2 ปุ่มบันทึก ไม่ต้องใช้ macro นะครับ ใช้เป็น vba แทน คลิกขวาที่ปุ่ม บันทึก > property > tab Event > ช่อง On Click

3 คลิกที่ปุ่ม … หลังช่องว่าง เลือก Code Builder

จากนั้นใส่โค๊ตเช็คครับ

If(Trim(me.none_blank)="") Then
  msgbox "กรุณาใส่ข้อมูลให้ครบ"
Else
  ' ตรงนี้ใส่โค๊ตสำหรับเซพข้อมูล
End If

แล้วลองรันดูครับ

[Author]

Posts